สำหรับรับประทาน 4 คน
ไก่ 1/2 ตัว
(หั่นเป็น 16 ชิ้น)
เนื้อมะพร้าวขูด 1 ถ้วย
(ใช้น้ำกะทิ 2 ถ้วยแทนได้)
ตะไคร้ 1 ก้าน
(ขูด)
ใบขมิ้น 1 ใบ
(หั่นบาง ๆ )
น้ำกะทิ 3 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนู 6 เม็ด
พริกแดงใหญ่ 2 เม็ด
ขิงสด 1 ซม.
ผงขมิ้น 1/2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดง 2 หัว
กระเทียม 4 กลีบ
น้ำอุ่น 1 เหยือก
เกลือ
น้ำตาลทราย
ต่างจากเมนูแกงส่วนใหญ่ที่พบได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น แกงกะปิไก่ และแกงเนื้อไทย อายัมมาซัคเลมัคจานนี้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและสีเขียวปนเหลืองจากการผสมผสานของผงขมิ้น, ข่า, ตะไคร้ และน้ำกะทิ สิ่งที่ทำให้อาหารจานนี้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้นอีกคือรสชาติที่อ่อนหวานและรสชาติเผ็ดร้อนของขิง
แม้จะไม่ดูเผ็ดเท่าไหร่ในตอนแรกที่เห็น แต่แกงถ้วยนี้เผ็ดกว่าที่คุณคิดอย่างแน่นอน ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้พริกที่ใส่ลงไปเลย! แม้ว่ารสเผ็ดส่วนใหญ่จะถูกบังด้วยตะไคร้และกะทิ แต่พ่อครัวบางคนก็แนะนำให้ใส่พริกขี้หนูเพิ่มเพื่อความโดดเด่นขึ้นมาของรสเผ็ดร้อน
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะชอบกินแกงถ้วยนี้กับข้าวสวย แต่คุณก็ยังสามารถนำมากินคู่กับโรตีปราต้า หรือจปาตีเพื่อไม่ให้เป็นมื้อที่หนักเกินไปได้ด้วย นอกจากนี้ยังใช้น้ำแกงเป็นซอสจิ้มสำหรับปาปาดัม หรือขนมปังสำหรับเป็นขนมในช่วงเวลาน้ำชาก็ได้ เมนูนี้อิ่มและอุ่นท้องนี้เหมาะสมกับวันฝนตกอย่างสุด ๆ ไปเลย ยังไม่นับว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูสุดเยี่ยมสำหรับการเป็นมื้อเย็นของทั้งครอบครัวนะ!
ในเมื่อมีหลายร้านที่ทำเมนูแกงรสชาติไม่ถูกใจ ทำไมไม่ลองทำเมนูอายัมมาซัคเลมัคถ้วยนี้ด้วยตัวเองดูล่ะ?
การทำเมนูแกงมักจะดูยากในตอนแรก เพราะปกติแล้วละทำในปริมาณที่เยอะอยู่เสมอ แต่เคล็ดลับที่จะทำให้เมนูนี้ออกมาอร่อยคือการควบคุมไฟและป้องกันไม่ให้วัตถุดิบไหนสุกจนเกินไป คุณภาพของอาหารชามนี้อยู่ที่ความแม่นยำในการใส่สัดส่วนส่วนผสมอย่างพอดี ยกตัวอย่างเช่น คุณเองก็คงไม่ต้องการใส่กะทิมากเกินไปแล้วจบลงที่แกงมีแต่น้ำนม เช่นเดียวกับการใส่ผงขมิ้นมากเกินไปจะทำให้อาหารชามนี้เผ็ดร้อนจนไม่อร่อย
ถึงแม้ในสูตรของเราจะแนะนำให้ใช้ไก่ครึ่งตัว แต่คุณก็สามารถเลือกส่วนของเนื้อไก่มาใช้ได้ตามความชอบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสะโพก, ปีก, อก, หรือน่องไก่
แต่อย่าลืมว่าสัมผัสของเนื้อไก่จะมีความแตกต่างกันไปตามส่นที่ใช้ อย่างเช่นอกไก่ที่สุกเกินไปจะมีความแห้ง ในขณะที่ส่วนปีกจะเป็นส่วนที่มีไขมันมากกว่าส่วนอื่น ๆ
น้ำกะทิจะเปรี้ยวถ้าไม่บริโภคให้หมดภายใน 1 สัปดาห์ คุณควรรับประทานอายัมมาซัคเลมัคภายใน 2 วันก่อนที่มันจะเสีย
หรืออีกทางเลือกคือคุณสามารถนำไปแช่เย็นแล้วอุ่นร้อนใหม่อีกครั้งได้ในอนาคต
ถึงแม้เมนูนี้จะเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่คุณอาจจะหาซื้อพริกแกงสำหรับเมนูนี้ไม่ได้หรอก
แต่ไม่ต้องกังวลไป อาหารเมนูนี้ไม่ได้ทำยากอย่างที่คิดหรอก! อ่านต่อที่เคล็ดลับในการทำให้รสชาติอร่อยครบเครื่องเลย
ถ้าคุณต้องการรสชาติที่รุนแรงกว่า สามารถใช้หัวหอมแทนหอมแดงได้เลย เพราะหัวหอมจะมีกลิ่นที่รุนแรงกว่า และรสชาติที่อูมามิกว่าหอมแดงที่จะหวานกว่าและรสชาติเบาบางกว่า
อายัมมาซัคเลมัคนั้นเผ็ดกว่าที่เห็น แต่ถ้าคุณเป็นคนที่กินเผ็ดไม่ค่อยได้ คุณสามารถใช้พริกหยวกแทนพริกขี้หนู ซึ่งจะ ทำให้เผ็ดน้อยลงได้
ใช้เครื่องเทศสด: ไม่ว่าจะทำเมนูแกงอะไรก็ตาม การใช้เครื่องเทศสดแทนเครื่องเทศสำเร็จรูปจะช่วยให้รสชาติอาหารของคุณมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ควบคุมไฟ: ยิ่งไฟแรงยิ่งอาจจะดูเร้าใจโดยเฉพาะเวลาที่กำลังหิว แต่คุณควรใช้ไฟต่ำถึงกลางเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนผสมใด ๆ ของคุณไหม้แล้วทิ้งปัญหาเอาไว้ให้คุณ
ถ้าอยากให้เป็นมื้อที่ดีต่อสุขภาพใช้อกไก่สิ: เนื่องจากอกไก่เป็นส่วนที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำกว่าสะโพก, ปีก, และน่อง
ถ้าอยากให้เนื้อไก่มีรสชาติมากยิ่งขึ้น เลือกใช้ส่วนสะโพกสิ: ในขณะที่ส่วนอกนั้นเป็นส่วนที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ส่วนที่อร่อยที่สุด ถ้าคุณชอบกินไก่ล่ะก็ ใช้ส่วนสะโพกแทนสิ ทั้งอร่อยและมีไขมันมากกว่าเลยล่ะ!
หั่นไก่เป็นชิ้นเล็ก ๆ : ถ้าคุณต้องการประหยัดเวลาทำอาหาร ให้หั่นไก่เป็นชิ้นเล็กลง วิธีนี้จะทำให้เนื้อไก่สุกไวขึ้น
ปรุงสุกส่วนผสมอย่างละเอียด: ความลับในการทำเมนูแกงให้อร่อยคือเครื่องปรุงต้องเข้ากันได้ดี เช็คให้แน่ใจว่าพริกแกงของคุณมีกลิ่นหอมแล้วค่อยใส่วัตถุดิบอื่นตาม
ปั่นและทอดพริกแกง
ใส่พริกขี้หนู 6 เม็ด, พริกแดงใหญ่ 1 เม็ด ขิง, ผงขมิ้น ½ ช้อนชา, หอมแดง และกระเทียมลงในเครื่องปั่น แล้วปั่นให้เข้ากันดี
ถ้าพริกแกงแห้งเกินไป คุณสามารถใส่น้ำเติมลงไปได้เพื่อให้ได้พริกแกงที่เรียบเนียน
ตั้งไฟปานกลางกึ่งสูง ทอดพริกแกงลงในกระทะเป็นเวลา 5 นาที
| วิธีกินที่ดีที่สุดคือกินคู่กับข้าวสวย
นำลงถ้วยเสิร์ฟแล้วตกแต่งด้วยพริกแดงใหญ่หั่น เสิร์ฟขณะกำลังร้อน ๆ ได้เลย